การกำหนด choice User Logon in windows

สถานการณ์มีอยู่ว่า ในเครื่องserver เราจะมีการกำหนดสิทธิ์ให้กับ User Remote Desktop ให้กับหลายๆคน แต่ละคนก็จะมีสิทธ์ ทำงานได้ตามสิทธิ์ และถ้ามีการกำหนด User ไว้เยอะๆๆ เวลาที่เราจะเข้ามาใช้งาน ที่หน้าserver จริง สิ่งที่เราเห็นคือ User ทั้งหลายทั้งปวงที่เราสร้างไว้จะแสดงเต็มจอเพื่อให้เราเลือกเข้าใช้ แต่เราซึ่งเป็น Admin หลักอยากเห็นแค่ User 1 คนในหน้านั้นเท่านั้น และอยากจะป้องกันไม่ให้ User คนอื่นๆ เข้ามาlogin ที่หน้าเครื่อง server มีวิธีการกำหนดสิทธิ์ดังนี้คับ




 รูปการเปิดสิทธิ์ให้ทำการ Remote Desktop ผ่านเครื่องอื่น







ทำการเพิ่ม User อื่น ที่ไม่ใช่ Admin เข้าไป แค่นี้เราก็จะไม่ตาลายกับ User อื่นที่เราสร้างไว้ และยังป้องกันการเข้าใช้เครื่องผ่าน Userอื่นที่ไม่ใช้adminด้วยคับ

คำสั่งขยับ index ของKey AutoGenID ที่เป็น Integer หรือlong ใน SQLSERVER

DBCC CHECKIDENT (TableName, RESEED, 50000)

หมายเหตุ ก่อนทำการrun คำสั่ง ต้องเปลี่ยน Key ที่เป้น Autogen ออก ก่อนจึงจะรันคำสั่งได้

คำสั่ง ดูรายงานข้อมูลในฐานข้อมูล Sqlserver

เนื่องจากระบบที่ผมดูแลอยู่มานาน ฐานข้อมูลเริ่มใหญ่ขึ้นเรื่อยจึงอยากทราบว่ามีตารางไหนบ้างที่มีจำนวน recode เยอะ มากจะได้clear โดยมีคำสั่งดังนี้

SELECT
    [TableName] = so.name,
    [RowCount] = MAX(si.rows)
FROM
    sysobjects so,
    sysindexes si
WHERE
    so.xtype = 'U'
    AND
    si.id = OBJECT_ID(so.name)
GROUP BY
    so.name
ORDER BY
    2 DESC


Check Query use CPU Time
<ที่มา:https://stackoverflow.com/questions/945063/how-do-i-find-out-what-is-hammering-my-sql-server>

SELECT TOP 20
    qs.sql_handle,
    qs.execution_count,
    qs.total_worker_time AS Total_CPU,
    total_CPU_inSeconds = --Converted from microseconds
        qs.total_worker_time/1000000,
    average_CPU_inSeconds = --Converted from microseconds
        (qs.total_worker_time/1000000) / qs.execution_count,
    qs.total_elapsed_time,
    total_elapsed_time_inSeconds = --Converted from microseconds
        qs.total_elapsed_time/1000000,
    st.text,
    qp.query_plan
FROM
    sys.dm_exec_query_stats AS qs
CROSS APPLY
    sys.dm_exec_sql_text(qs.sql_handle) AS st
CROSS APPLY
    sys.dm_exec_query_plan (qs.plan_handle) AS qp
ORDER BY
    qs.total_worker_time DESC

สูตรเกี่ยวกับบุคลิกของตัวเองที่ควรไปจะคู่ กับสูตรสุขภาพมีอย่างนี้

สูตรเกี่ยวกับบุคลิกของตัวเองที่ควรไปจะคู่ กับสูตรสุขภาพมีอย่างนี้

๑. อย่าเปรียบเทียบ ชีวิตของตัว เองกับคนอื่น คุณไม่รู้หรอกว่าคนที่คุณอิจฉานั้นเขา มีความทุกข์ยิ่งกว่าคุณอย่างไรบ้าง
๒. อย่าคิดทางลบ เกี่ยวกับ เรื่องที่คุณควบคุมหรือกำหนดไม่ได้ แทนที่จะมองโลก ในแง่ร้าย , ก็ทุ่มเทกำลังและพลังงานให้กับความคิด ทางบวก ณ ปัจจุบันเสีย
๓. อย่าทำอะไร เกินกว่าที่ตัวเองทำได้ ...รู้ว่าขีดจำกัดของตัวเองอยู่ที่ไหน
๔.. อย่าเอา จริงเอาจังกับตัวเองนัก เพราะคนอื่นเขา ไม่ได้ซีเรียสกับคุณเท่าไหร่หรอก
๕. อย่า เสียเวลา และพลังงานอันมีค่าของคุณ กับ เรื่องหยุมหยิม หรือเรื่องซุบซิบ....นอกเสียจากว่ามันจะทำให้คุณ ผ่อนคลายได้อย่างจริงจัง
๖. จงฝันตอนตื่น มากกว่าตอน หลับ
๗. ความ รู้สึกอิจฉาริษยาเป็นเรื่องเสียเวลาเปล่า ๆ ปลี้ ๆ...คิดให้ดีก็จะรู้ว่าคุณมีทุกอย่างที่คุณจำเป็นต้องมีแล้ว
๘. ลืมเรื่อง ขัดแย้งในอดีตเสีย และอย่าได้เตือนสามี หรือภรรยาคุณเกี่ยวกับความผิดพลาดในอดีตของอีกฝ่ายหนึ่งเลย เพราะมันจะทำลายความสุขปัจจุบันของคุณ
๙. ชีวิตนี้สั้นเกินกว่าที่เราจะไปโกรธเกลียดใคร... จงอย่าเกลียดคนอื่น
๑๐.ประกาศ สงบศึกกับอดีตให้สิ้น , จะได้ไม่ทำลายปัจจุบันของคุณ
๑๑.ไม่มีใครกำหนดความสุขของคุณได้นอกจากคุณเอง
๑๒.จง เข้าใจเสียว่า ชีวิตก็คือโรงเรียน คุณมาเพื่อเรียน รู้ และ ปัญหาเป็น เพียง ส่วนหนึ่งของหลักสูตร ซึ่งมาแล้วก็หาย ไป...เหมือนโจทย์วิชาพีชคณิต...แต่สิ่งที่คุณเรีย?รู้นั้นอยู่กับคุณตลอด ชีวิต
๑๓. จง ยิ้มและหัวเราะมากขึ้น
๑๔. คุณ ไม่จำเป็นต้องชนะทุกครั้งที่ถก เถียงกับคนอื่น หรอก...บางครั้งก็ยอมรับว่าเราเห็นแตกต่างกัน ได้...

เห็นพ้องที่จะเห็นต่างก็ไม่เห็นเสียหายแต่อย่างไร
แล้ว เราควรจะมีทัศนคติอย่างไรต่อชุมชนและคนรอบข้าง เราล่ะ ?

๑. อย่าลืมโทรฯหาครอบครัวบ่อย ๆ
๒. จงหาอะไรดี ๆ ให้คนอื่นทุกวัน
๓. จงให้อภัยทุกคนสำหรับทุกอย่าง
๔. จงหาเวลาอยู่กับคนอายุเกิน 70 และต่ำกว่า 6 ขวบ
๕. พยายามทำให้อย่างน้อย 3 คนยิ้มได้ทุกวัน
๖. คนอื่นเขาคิดอย่างไรกับคุณไม่ใช่ เรื่องของคุณสัก หน่อย
๗. งานของคุณไม่ดูแลคุณตอนคุณป่วยหรอก แต่ครอบครัวและเพื่อนคุณต่างหากเล่าที่จะดูแลคุณในยามคุณมีปัญหา สุขภาพ

ดังนั้น , อย่าได้ห่างเหินกับคนใกล้ชิดเป็น อันขาด

และ ถ้าหากสามารถดำรงชีวิตให้มีความหมายได้ , ก็ควรจะทำ ดังต่อไปนี้

๑. ทำสิ่งที่ควรทำ
๒. อะไรที่ไม่เป็นประโยชน์ , ไม่สวย , ไม่น่ารื่นรมย์ , จงทิ้ง ไปเสีย...เก็บไว้ทำไม ?
๓. เวลาและพระเจ้าย่อมรักษาแผล ทุกอย่างได้
๔. ไม่ว่าสถานการณ์จะดีหรือเลวปานใด , เดี๋ยว มันก็เปลี่ยน
๕. ไม่ว่าคุณจะรู้สึกอย่างไรในตอนเช้าของทุกวัน , จงลุก จากเตียง , แต่ง ตัวและปรากฎตัวต่อหน้าคนที่เราร่วมงาน ด้วย... get up, dress up and show up.
๖. สิ่งที่ดีที่สุดยังมาไม่ถึง
๗. ถ้าคุณยังลุกขึ้นตอนเช้าได้ , อย่าลืมขอบคุณพระเจ้า หรือสิ่ง ศักดิ์สิทธิ์ที่คุณนับถือเสียด้วย
๘. เชื่อเถอะว่าส่วนลึก ๆ ในใจของคุณนั้นมีความสุข เสมอ...ดังนั้น , ส่วนนอกของคุณทุกข์โศกไปทำไมเล่า

ที่มา:ได้รับจากemailครับ
ไดอารี่ออนไลน์ : www.iamnidnoi.com

VB.net การ Read & Write XML file (แบบset Config)

ในการพัฒนาโปรแกรม ด้วย windows Application ต้องมีการทำ config เกี่ยวกับ Database,username,password,key ที่ผ่านมาเราอาจจะเคยเห็น โปรแกรมที่เป็น Application ใช้ file .ini, .txt และ .xml ซึ่งการ Read & Write xml มีหลากหลายแบบ ผมมีตัวอย่างการ set xml อย่างง่ายมาฝากดังตัวอย่าง

<?xml version="1.0" encoding="utf-8" ?>
- <configuration>
<ServerName>xxx.xxx.xxx.xxx</ServerName>
<UserName>findvb</UserName>
<Password>1234</Password>
</configuration>


ขั้นตอนคือ เราจะต้องมี pathfile ของ xmlของเราก่อนโดยใน fuctionผมกำหนดไว้ที่
Private filename As String = Application.StartupPath & "\" & "dataconfig.xml"

View Code

-------------------------------------------------
Imports System.Xml
Imports System.Text
Private filename As String = Application.StartupPath & "\" & "config.xml"
Public str_Servername As String = "ServerName"
Public str_UserName As String = "UserName"
Public str_Password As String = "Password"

Public Sub SetWriteXML(ByVal servername As String, ByVal username As String, ByVal pwd As String)
If Not IO.File.Exists(filename) Then
Dim xmlText = "<?xml version='1.0' encoding='utf-8'?>" & _
"<configuration>" & _
"</configuration>"
Dim xmlDoc As New XmlDocument()
xmlDoc.LoadXml(xmlText)
xmlDoc.Save(filename)
End If
Try
'Create file, overwrite if exists
'enc is encoding object required by constructor
'It is null, so default encoding is used
Dim objXMLTW As New XmlTextWriter(filename, Encoding.UTF8)
With objXMLTW
.IndentChar = vbTab
.Indentation = 1
.Formatting = Formatting.Indented

.WriteStartDocument()
'Top level (Parent element)
.WriteStartElement("configuration")

'Child elements, from request form
.WriteElementString(str_Servername, servername)
.WriteElementString(str_UserName, username)
.WriteElementString(str_Password, pwd)

.WriteEndElement() 'End top level element
.WriteEndDocument() 'End Document
.Flush() 'Write to file
.Close()
End With
Catch Ex As Exception

End Try
End Sub

Public Function GetReadXML(ByVal keyName As String) As String
Dim getvalue As String = ""
Dim XmlDoc As XmlDocument = New XmlDocument()
Try
With XmlDoc
XmlDoc.Load(filename)
getvalue = .SelectSingleNode("configuration/" & keyName).InnerText()
XmlDoc = Nothing
End With
Catch ex As Exception
End Try
Return getvalue
End Function

------------------------------------------------

วิธีทำให้เว็บเรารันบน ie แล้วให้ compatibility ตลอด

เวลาเราเปิดเว็บบน ie แล้วให้ขึ้น compatibility view websites designed for older browsers will often look better and problems such as out-of-place
วิธีแก้ไขให้เราไป เพิ่ม tag ใน web.config

------------------------------------------------
<system.webServer>
<httpprotocol>
<customheaders>
<clear />
<add name="X-UA-Compatible" value="IE=8" />
</customHeaders>
</httpProtocol>
</system.webServer>
------------------------------------------------

VB.net แสดงจำนวนเงินเป็นตัวหนังสือ ไทย

Function แสดงจำนวนเงินเป็นตัวหนังสือไทย
ChangeToThaibathWord("523.25") = ห้าร้อยยี่สิบสามบาทยี่สิบห้าสตางค์

View Code

----------------------------------------------------------
Public Function ChangeToThaibathWord(ByVal mondyValue As String) As String
Dim digit() As String = {"เอ็ด", "สิบ", "ร้อย", "พัน", "หมื่น", "แสน", "ล้าน", "สิบล้าน", "ร้อยล้าน", "พันล้าน"}
Dim tmp() As String = mondyValue.Split(".".ToCharArray(), StringSplitOptions.RemoveEmptyEntries)
Dim intNumber = tmp(0).Replace(",", "")
Dim decNumber As String
If (tmp.Length > 1) Then
decNumber = tmp(1)
Else
decNumber = ""
End If

Dim result As String = ""
Dim testChar As String = ""
Dim splitChar As String = ""

Dim wordLength As Integer = intNumber.Length - 1
For intPosition As Integer = 0 To wordLength
splitChar = intNumber.Substring(intPosition, 1)
Select Case splitChar
Case "0" : testChar = ""
Case "1" : testChar = "หนึ่ง"
Case "2" : testChar = "สอง"
Case "3" : testChar = "สาม"
Case "4" : testChar = "สี่"
Case "5" : testChar = "ห้า"
Case "6" : testChar = "หก"
Case "7" : testChar = "เจ็ด"
Case "8" : testChar = "แปด"
Case "9" : testChar = "เก้า"
End Select

Select Case (wordLength - intPosition)
Case 0
If (splitChar = "1") Then
If (wordLength = 0) Then
result = result & testChar
Else
result = result & digit(wordLength - intPosition)
End If
Else
result = result & testChar
End If
Case 1
Select Case splitChar
Case "0"
Case "1"
result = result & digit(wordLength - intPosition)
Case "2"
testChar = "ยี่"
result = result & testChar & digit(wordLength - intPosition)
Case Else
result = result & testChar & digit(wordLength - intPosition)
End Select
Case Else
Select Case splitChar
Case "0"
Case Else
result = result & testChar & digit(wordLength - intPosition)
End Select
End Select

Next
result = result & "บาท"

Dim stang As String = ""
If (decNumber.Length > 0) Then
wordLength = decNumber.Length - 1
For intPosition As Integer = 0 To wordLength
splitChar = decNumber.Substring(intPosition, 1)
Select Case splitChar
Case "0" : testChar = ""
Case "1" : testChar = "หนึ่ง"
Case "2" : testChar = "สอง"
Case "3" : testChar = "สาม"
Case "4" : testChar = "สี่"
Case "5" : testChar = "ห้า"
Case "6" : testChar = "หก"
Case "7" : testChar = "เจ็ด"
Case "8" : testChar = "แปด"
Case "9" : testChar = "เก้า"
End Select

Select Case (wordLength - intPosition)
Case 0
If (splitChar = "1") Then
If (wordLength = 0) Then
stang = stang & testChar
Else
stang = stang & digit(wordLength - intPosition)
End If
Else
stang = stang & testChar
End If
Case 1
Select Case splitChar
Case "0"
Case "1"
stang = stang & digit(wordLength - intPosition)
Case "2"
testChar = "ยี่"
stang = stang & testChar & digit(wordLength - intPosition)
Case Else
stang = stang & testChar & digit(wordLength - intPosition)
End Select
Case Else
Select Case splitChar
Case "0"
Case Else
stang = stang & testChar & digit(wordLength - intPosition)
End Select
End Select

Next
End If

If (stang.Trim().Length > 0) Then
stang = stang & "สตางค์"
Else
stang = "ถ้วน"
End If

result = result & stang

Return result
End Function
------------------------------------------------

หวังว่าคงเป็นประโยชน์นะครับ

คู่มือการติดตั้งโปรแกรม SQLServer2008 R2 Express

ไปที่ลิ้งด้านล่างเลยจ้า
คลิ๊กที่นี่
ขอบคุณผู้จัดทำด้วยครับ

tag Blink ไม่ทำงานใน IE8 & Chrome มีวิธีแก้ไขให้ทำแบบนี้นะ

ตัวนี้ใช้จาวาสคริปช่วยในการแสดงผล โดยปรับ style display

View Code

-------------------------------------------------
<html>
<body>
<script type="text/javascript">

function animateBlink(aa) {
var myTA = document.getElementById(aa);
if (myTA.style.display == '') {
myTA.style.display = 'none';
} else {
myTA.style.display = '';
}
setTimeout("animateBlink('"+aa+"');", 500);
}
setTimeout("animateBlink('data1');", 500);
</script>
<span id="data1">Your text</span>
</body>
</html>
------------------------------------------------

****************
Your text

ใช้ จาวา script ช่วยได้(it work in Chome , IE)

การตั้งค่า IIS ไม่ให้แสดงรูปภาพและ Css

เนื่องจากผมได้ทดสอบติดตั้ง iis ใหม่ บน windows 7 แต่ผมได้กำหนดค่าไว้ไม่ครับทำให้เว็บที่รันผ่าน iis นั้นรันได้แต่ไม่มีรูปภาพแสดงในเว็บเลย ทำให้ผมต้องหาวิธีไปกำหนดค่าในiis ให้แสดงรูปด้วย ซึ่งสามารถทำการแก้ไขได้ดังนี้
การ set iis ไม่ให้แสดงรูป และ css
    ไปที่ Add Remove Programe
    1 Turn Window Feature on or off
    2 select +Internet Information Services
    3 Select +World Wide Web Services
    4 Select +Common Http Features
    5 check Static Content

หวังว่าจะช่วยบางคนได้ หากพบปัญหาเดียวกัน